เป็นคุณจะเลือกอะไร? ระหว่างได้เล่นเน็ตความเร็วสูงสุด700 Mbps แบบอยู่เฉพาะที่ หรืออยู่ที่ไหนก็เล่นได้"
ถ้าอธิบายให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ เข้าใจง่ายๆ คือ ในทางหลักการยิ่งค่าดาวน์โหลดหรืออั๊ปโหลดสูงหมายถึงค่าความเร็วสูงนั่นเอง
ล่าสุดได้เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของค่ายเบอร์ 1 ของโลก ณ ปัจจุบัน ที่เคยเกือบตกหลังม้าจากกรณีถูกส่งเครื่องคืนทั้งหมด
ใครๆ ก็เคยพลาดแต่ใครกันที่พลาดแล้วจะกลับมายืนได้เร็วกว่าในการครองส่วนแบ่งการตลาดนี่คือการแข่งขันที่น่าทึ่งและดูมีเหตุผลกว่าตัวเลขความเร็วเสียอีก อย่างไรก็ตามเราลองมาวิเคราะห์ว่าตัวเลขความเร็วมีผลต่อการใช้ชีวิตจริงของผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหนกันดีกว่า?
ในบรรดามือถือส่วนใหญ่ที่มีขายในประเทศไทยปัจจุบันรองรับการรับส่งข้อมูลโดยใช้ความถี่ของคลื่นคนละความถี่กันนั้นใช้งานได้กับคลื่นความถี่ที่แต่ละค่ายมือถือครอบครองหลังประมูล4G และมีการเปิดใช้งานจริงในปัจจุบันAIS และTrueMove H มี Bandwidth capacity รวมที่เท่ากันคือ55 MHz โดย DTAC ถือครองรวม 70 MHz แต่ใช้งานจริง 50 MHz แต่ด้วยAIS มีผู้ใช้มากที่สุด ทำให้มีค่าเฉลี่ยโดยประมาณอยู่ที่ 1.34 MHz ต่อ 1 ล้านราย โดยปัจจุบัน TrueMove H มีผู้ใช้เป็นอันดับ 2 ของตลาด ซึ่งขึ้นแท่นผู้นำ DTAC อย่างเป็นทางการในปลายปี 2016 ที่ผ่านมา โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยโดยประมาณ2.24 MHz ต่อ 1 ล้านราย เมื่อเทียบกันแล้วจึงไม่แปลกใจที่ทำไมTrueMove H จึงโดดเด่นในด้านคุณภาพของสัญญาณในวันนี้
สำหรับ DTAC ซึ่งเพิ่งได้รับการประกาศว่าได้คลื่นความถี่อีก60 MHz นั้นจะมีการใช้งานรับส่งข้อมูลแตกต่างจากรูปแบบที่กล่าวมาข้างต้นกล่าวคือมีการรับส่งข้อมูลโดยใช้ความถี่ของคลื่นความถี่เดียวกันเท่านั้น ซึ่งต้องตรวจสอบมือถือว่ารองรับระบบดังกล่าวหรือไม่เพราะมือถือส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับกับระบบการรับส่งข้อมูลดังกล่าวและ DTAC เองยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะติดตั้งสถานีได้ครอบคลุม ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกของผู้บริโภคในปัจจุบัน
คำถามต่อมาที่เห็นในโฆษณาของแต่ละค่ายตอนนี้อะไรคือเทคโนโลยี 4x4 Mimo? จริงๆ แล้วหมายถึงสถานีฐานรับส่งดาต้าที่รองรับ4.5G และเตรียมเข้าสู่ 5G ในอนาคต ซึ่งก่อนนี้รับส่งผ่าน2 ช่องสัญญาณ ได้ถูกปรับเป็น 4 ช่องสัญญาณนั่นเอง ทำให้ความเร็วเพิ่มอีก 3-4 เท่าซึ่งคำถามสำคัญต่อมาประเทศไทยเราพร้อมหรือยัง? และค่ายใดที่มีคลื่นที่มากพอที่จะใช้เทคโนโลยีนี้ได้อย่างดีที่สุด? และผู้บริโภคอย่างเราพร้อมไหม?
ที่น่าสนใจคือก่อนนี้ iPhone 7 เป็นรุ่นที่โดดเด่นในการรองรับ 3 CA และ 4GLTE Unlimited อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด300 Mbps ทำให้ Samsung S8 จำเป็นต้องพัฒนาให้เหนือกว่าและยืนยันว่าเมื่อเปิดfirmware ใหม่เมื่อไรจะมาพร้อมกับเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างค่ายเขียวแต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นการลดความน่าเชื่อถือก็ผลจากการโอเวอร์เคลมตัวเลขความเร็วก่อนทีS8 จะเปิด firmware ใหม่ด้วยซ้ำ เมื่อเปิดจริงจากข่าวระบุว่า S8 จะเป็นรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีได้เหนือiPhone 7 นอกจาก MIMO 4x4 และ CA ยังมาพร้อม 256 QAM
ขออนุญาตวิเคราะห์เพียง2 ค่ายเบอร์ 1 และ 2สำหรับAIS ในทางทฤษฎีก็อาจจะพอเป็นไปได้ โดยนำคลื่น2100/15 MHz และคลื่น 1800/15 MHz 4x4 MIMO256 QAM ผนวกกับ MHz 900 MHz 2x2 แต่ยุติธรรมไหมถ้าผลักลูกค้า 3G คลื่น 2100ไปใช้ TOT 2100 มีอีกวิธีเช่น AIS 3CA 256QAM 4x4 MIMO หรือ AIS 2 CA รวมกับ TOT/15 MHz ซึ่งถ้ามาใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ถือว่าผิดกฎหมายในปัจจุบัน จึงยิ่งเป็นข้อน่าสงสัยของชาวโซเชียลว่าโอเวอร์เคลมหรือเอาอะไรมาพูดนั่นเอง? ที่เขียนตัวเลขงงๆ ทั้งหมดนั่นเรียกได้ว่าเป็นทฤษฎี
ต่อมาทรูมูฟ เอชความเป็นไปได้คือการใช้ 3CA และปิด 2G 900 Mhz ผสานเทคโนโลยี 256QAM และ4x4 MIMO หรือ 3CA และปิด 2G 900 MHz และ 3G2100 MHz ซึ่งเขาคงไม่ทำกันในความเป็นจริงเพราะยังมีลูกค้าที่ต้องคำนึงถึง หรือถ้าจะทำก็ทำแค่บางจุดเพื่อโฆษณาอีกเช่นเคย แต่ความจริงคือ ทรูมูฟ เอช เติบโตเร็วมาก รวมถึงมีสถานีฐาน 4x4 MIMO ถึง 7,000สถานีซึ่งมากที่สุดในโลก!
ที่เขียนตัวเลขปวดหัวหล่านี้ผู้อ่านคงจะยังไม่เข้าใจทั้งหมดแต่ไม่ต้องกังวลเพราะนั่นเป็นเพียงทฤษฎีการคำนวนในทางวิศวกรรมเครือข่ายเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่าในชีวิตจริงคุณจะใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วเท่านั้นทำอะไรกัน? และมีกี่คนที่ใช้ ถ้าใช้แค่ไม่กี่คนแล้วคนอีกกี่สิบล้านคนที่จะต้องถูกละเลยหรือยังไง? ดังนั้นถ้าเป็นเราก็คงเลือกเล่นเน็ตความเร็วสูงแบบอยู่ที่ไหนก็ได้ไม่ใช่เพียงเน็ตเร็วสูงสุด 700Mbps เฉพาะที่ จริงไหม?
ข้อมูลจาก :
http://www.nationtv.tv/main/content/economy-business/378549773/
เป็นคุณจะเลือกอะไร? ระหว่างได้เล่นเน็ตความเร็วสูงสุด700 Mbps แบบอยู่เฉพาะที่ หรืออยู่ที่ไหนก็เล่นได้
ถ้าอธิบายให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ เข้าใจง่ายๆ คือ ในทางหลักการยิ่งค่าดาวน์โหลดหรืออั๊ปโหลดสูงหมายถึงค่าความเร็วสูงนั่นเอง
ล่าสุดได้เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของค่ายเบอร์ 1 ของโลก ณ ปัจจุบัน ที่เคยเกือบตกหลังม้าจากกรณีถูกส่งเครื่องคืนทั้งหมด
ใครๆ ก็เคยพลาดแต่ใครกันที่พลาดแล้วจะกลับมายืนได้เร็วกว่าในการครองส่วนแบ่งการตลาดนี่คือการแข่งขันที่น่าทึ่งและดูมีเหตุผลกว่าตัวเลขความเร็วเสียอีก อย่างไรก็ตามเราลองมาวิเคราะห์ว่าตัวเลขความเร็วมีผลต่อการใช้ชีวิตจริงของผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหนกันดีกว่า?
ในบรรดามือถือส่วนใหญ่ที่มีขายในประเทศไทยปัจจุบันรองรับการรับส่งข้อมูลโดยใช้ความถี่ของคลื่นคนละความถี่กันนั้นใช้งานได้กับคลื่นความถี่ที่แต่ละค่ายมือถือครอบครองหลังประมูล4G และมีการเปิดใช้งานจริงในปัจจุบันAIS และTrueMove H มี Bandwidth capacity รวมที่เท่ากันคือ55 MHz โดย DTAC ถือครองรวม 70 MHz แต่ใช้งานจริง 50 MHz แต่ด้วยAIS มีผู้ใช้มากที่สุด ทำให้มีค่าเฉลี่ยโดยประมาณอยู่ที่ 1.34 MHz ต่อ 1 ล้านราย โดยปัจจุบัน TrueMove H มีผู้ใช้เป็นอันดับ 2 ของตลาด ซึ่งขึ้นแท่นผู้นำ DTAC อย่างเป็นทางการในปลายปี 2016 ที่ผ่านมา โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยโดยประมาณ2.24 MHz ต่อ 1 ล้านราย เมื่อเทียบกันแล้วจึงไม่แปลกใจที่ทำไมTrueMove H จึงโดดเด่นในด้านคุณภาพของสัญญาณในวันนี้
สำหรับ DTAC ซึ่งเพิ่งได้รับการประกาศว่าได้คลื่นความถี่อีก60 MHz นั้นจะมีการใช้งานรับส่งข้อมูลแตกต่างจากรูปแบบที่กล่าวมาข้างต้นกล่าวคือมีการรับส่งข้อมูลโดยใช้ความถี่ของคลื่นความถี่เดียวกันเท่านั้น ซึ่งต้องตรวจสอบมือถือว่ารองรับระบบดังกล่าวหรือไม่เพราะมือถือส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับกับระบบการรับส่งข้อมูลดังกล่าวและ DTAC เองยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะติดตั้งสถานีได้ครอบคลุม ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกของผู้บริโภคในปัจจุบัน
คำถามต่อมาที่เห็นในโฆษณาของแต่ละค่ายตอนนี้อะไรคือเทคโนโลยี 4x4 Mimo? จริงๆ แล้วหมายถึงสถานีฐานรับส่งดาต้าที่รองรับ4.5G และเตรียมเข้าสู่ 5G ในอนาคต ซึ่งก่อนนี้รับส่งผ่าน2 ช่องสัญญาณ ได้ถูกปรับเป็น 4 ช่องสัญญาณนั่นเอง ทำให้ความเร็วเพิ่มอีก 3-4 เท่าซึ่งคำถามสำคัญต่อมาประเทศไทยเราพร้อมหรือยัง? และค่ายใดที่มีคลื่นที่มากพอที่จะใช้เทคโนโลยีนี้ได้อย่างดีที่สุด? และผู้บริโภคอย่างเราพร้อมไหม?
ที่น่าสนใจคือก่อนนี้ iPhone 7 เป็นรุ่นที่โดดเด่นในการรองรับ 3 CA และ 4GLTE Unlimited อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด300 Mbps ทำให้ Samsung S8 จำเป็นต้องพัฒนาให้เหนือกว่าและยืนยันว่าเมื่อเปิดfirmware ใหม่เมื่อไรจะมาพร้อมกับเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างค่ายเขียวแต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นการลดความน่าเชื่อถือก็ผลจากการโอเวอร์เคลมตัวเลขความเร็วก่อนทีS8 จะเปิด firmware ใหม่ด้วยซ้ำ เมื่อเปิดจริงจากข่าวระบุว่า S8 จะเป็นรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีได้เหนือiPhone 7 นอกจาก MIMO 4x4 และ CA ยังมาพร้อม 256 QAM
ขออนุญาตวิเคราะห์เพียง2 ค่ายเบอร์ 1 และ 2สำหรับAIS ในทางทฤษฎีก็อาจจะพอเป็นไปได้ โดยนำคลื่น2100/15 MHz และคลื่น 1800/15 MHz 4x4 MIMO256 QAM ผนวกกับ MHz 900 MHz 2x2 แต่ยุติธรรมไหมถ้าผลักลูกค้า 3G คลื่น 2100ไปใช้ TOT 2100 มีอีกวิธีเช่น AIS 3CA 256QAM 4x4 MIMO หรือ AIS 2 CA รวมกับ TOT/15 MHz ซึ่งถ้ามาใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ถือว่าผิดกฎหมายในปัจจุบัน จึงยิ่งเป็นข้อน่าสงสัยของชาวโซเชียลว่าโอเวอร์เคลมหรือเอาอะไรมาพูดนั่นเอง? ที่เขียนตัวเลขงงๆ ทั้งหมดนั่นเรียกได้ว่าเป็นทฤษฎี
ต่อมาทรูมูฟ เอชความเป็นไปได้คือการใช้ 3CA และปิด 2G 900 Mhz ผสานเทคโนโลยี 256QAM และ4x4 MIMO หรือ 3CA และปิด 2G 900 MHz และ 3G2100 MHz ซึ่งเขาคงไม่ทำกันในความเป็นจริงเพราะยังมีลูกค้าที่ต้องคำนึงถึง หรือถ้าจะทำก็ทำแค่บางจุดเพื่อโฆษณาอีกเช่นเคย แต่ความจริงคือ ทรูมูฟ เอช เติบโตเร็วมาก รวมถึงมีสถานีฐาน 4x4 MIMO ถึง 7,000สถานีซึ่งมากที่สุดในโลก!
ที่เขียนตัวเลขปวดหัวหล่านี้ผู้อ่านคงจะยังไม่เข้าใจทั้งหมดแต่ไม่ต้องกังวลเพราะนั่นเป็นเพียงทฤษฎีการคำนวนในทางวิศวกรรมเครือข่ายเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่าในชีวิตจริงคุณจะใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วเท่านั้นทำอะไรกัน? และมีกี่คนที่ใช้ ถ้าใช้แค่ไม่กี่คนแล้วคนอีกกี่สิบล้านคนที่จะต้องถูกละเลยหรือยังไง? ดังนั้นถ้าเป็นเราก็คงเลือกเล่นเน็ตความเร็วสูงแบบอยู่ที่ไหนก็ได้ไม่ใช่เพียงเน็ตเร็วสูงสุด 700Mbps เฉพาะที่ จริงไหม?
ข้อมูลจาก : http://www.nationtv.tv/main/content/economy-business/378549773/